· DEPTH OF FIELD
การถ่ายภาพลักษณะนี้เพื่อเน้นระยะชัด ผู้ถ่ายภาพต้องเข้าใจการกำหนดค่าของรูรับแสงของเลนส์ เพื่อให้ได้ภาพตามต้องการ
ค่าของรูรับแสง มีตั้งแต่กว้างสุดคือ 1.2 4 5.6 8 11 16 22 ค่าตัวเลขยิ่งน้อยรูรับแสงยิ่งกว้าง ระยะชัดของภาพจะสั้นลง หรือที่เรียกว่า "ชัดตื้น" ในขณะเดียวกัน ค่าของตัวเลขยิ่งมาก รูรับแสงจะแคบลง ยิ่งแคบมากเท่าใดก็ยิ่งทำให้ภาพเกิดระยะชัดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
แต่ข้อควรระวัง คือ ยิ่งเปิดรูรับแสงแคบลงเท่าใจ จะได้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลง อาจทำให้กล้องสั่นไหวได้ง่าย ควรใช้ขาตั้งกล้องช่วยเพื่อให้กล้องนิ่งยิ่งขึ้น
ภาพที่ 1 เปิดรูรับแสง F 1.2 ความเร็วชัตเตอร์ 1/1000 วินาที
ภาพที่ 2 เปิดรูรับแสง F 22 ความเร็วชัตเตอร์ 1/60 วินาที
· LAND SCAPE
หรือการถ่ายภาพภูมิทัศน์ นิยมถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง เพื่อให้เห็นพื้นที่ในบริเวณกว้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ โดยปกใช้เลนส์มาตรฐานก็ได้เช่นกัน การถ่ายภาพลักษณะนี้ควรใช้รูรับแสงที่แคบเพื่อให้เกิดระยะชัดมากที่สุด ควรคำถึงถึงฉากหน้า ฉากหลังของภาพ และการวางจุดสนใจ หรืออาจใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ฟิลเตอร์โพราไรซ์ เพื่อให้สีของภาพอิ่มตัวขึ้น ท้องฟ้าเข้มขึ้นทำให้ภาพน่าสนใจ
หอประชุมกาญจนภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเสาธงป็นเส้นนำสายตา
ใช้ฟิลเตอร์โพราไรซ์ ท้องฟ้าจึงเข้มขึ้น
· STOP ACTION
เป็นเทคนิคการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูง เพื่อให้ภาพที่เคลื่อนไหวดูหยุดนิ่ง โดยใช้ตั้งแต่ 1/250 วินาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเคลื่อนที่ผ่านหน้าเลนส์ของวัตถุ
การถ่ายภาพลักษณะนี้ต้องวางแผนให้ดี ปรับโฟกัสและวัดแสงไว้ล่วงหน้า อาศัยการกะระยะและการตัดสินใจที่ฉับไวในการถ่ายภาพ แต่ต้องอย่าลืมเรื่องการจัดองค์ประกอบภาพเพื่อให้ภาพมีความงามและมีคุณค่า
ภาพรถจักรยานยนต์ วิ่งด้วยความเร็วสูง ใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/500 วินาที รูรับแสง F 5.6
· ACTION
เป็นการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำ ถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเพื่อให้เห็นถึงการเคลื่อนไหว เพราะความเร็วชัตเตอร์ที่ช้า จึงทำให้วัตถุที่ต้องการเน้นไม่ชัดเจน พร่ามัว จะใช้ความเร็วชัตเตอร์ช้ามากเพียงใดขึ้นอยู่กับความเร็วจองวัตถุที่เคลื่อนที่ผ่านเลนส์ ผู้ถ่ายภาพต้องสามารถประมาณความเร็วได้ ยิ่งช้ามากเท่าใด ภาพยิ่งพร่ามัวมากเท่านั้น แต่อย่ามากเกินไปเพราะจะทำให้มองไม่เห็นวัตถุที่ถ่ายให้ชัดเจน
สายน้ำ ที่อำเภอภูเวียง จ.ขอนแก่น ดูนุ่มนวล ด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำ 1/8 วินาที ใช้ขาตั้งกล้องช่วย
· PANNING
เป็นการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำ ถ่ายภาพเคลื่อนไหวเหมือนกับภาพ acti-on แต่จะใช้เทคนิคการแพนหรือการส่ายกล้องตามวัตถุที่เคลื่อนที่ และกดชัต-เตอร์ขณะที่ส่ายกล้อง ทำให้วัตถุที่ต้องการเน้นนิ่งเห็นรายละเอียดมากยิ่งขึ้น แต่ฉากหน้าและฉากหลังที่นิ่งอยู่กับที่ลู่ตามวัตถุ เป็นที่นิยมมากในการถ่ายภาพกีฬาประเภทต่างๆ
นักวิ่งลมกรด การถ่ายภาพใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/2 วินาที รูรับแสง F 22
ส่ายกล้องตามนักกีฬา พร้อมกดชัตเตอร์
· CLOSE UP
เป็นการถ่ายภาพระยะใกล้เพื่อเน้นรายละเอียด หรือการถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็ก สามารถถ่ายโดยใช้ฟิลเตอร์ Close up ซึ่งมีลักษณะเป็นเลนส์ขยาย จำหน่ายเป็นชุด ชุดละ 3 อัน สามารถต่อกันได้ แต่ต้องระวังในการถ่ายเพราะภาพจะชัดเฉพาะตรงกลางภาพ ส่วนด้านขอบของภาพจะไม่ชัดเพราะความโค้งของเลนส์ ยิ่งใช้ฟิลเตอร์หลายตัวยิ่งลดความคมชัดของภาพลง
ถ้าต้องการคุณภาพดี ควรใช้เลนส์มาโคร หรือเลนส์ถ่ายใกล้ จะให้รายละเอียดของภาพมากยิ่งขึ้น
การถ่ายภาพต้องระวังอย่าให้สั่นไหวเด็ดขาด ควรใช้ขาตั้งกล้องและสายลั่นชัตเตอร์เข้าช่วย หรือพยายามใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูง จะช่วยได้มาก
ผีเสื้อและดอกไม้ (ยอดนิยม) ถ่ายด้วยเลนส์มาโคร 55 มม. ระยะห่าง 10 ซม.
โฟกัสที่ปลายไม้ และใช้สายลั่นชัตเตอร์ยาว
· SILHOUETTE
เป็นเทคนิคการถ่ายภาพย้อนแสง โดยจะไม่เห็นรายละเอียดของวัตถุ ควรถ่ายในช่วงเช้า หรือช่วงเย็นที่แสงแดดเริ่มอ่อน อย่าวัดแสงกับดวงอาทิตย์ตรงๆ ควรวัดแสงที่ท้องฟ้า เฉียง 45 องศากับดวงอาทิตย์ และลดรูรับแสงให้แคบลง 2-4 Stop หรือถ้าเป็นเวลาเย็นมาก สามารถมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าได้ ก็วัดแสงที่ดวงอาทิตย์ได้เลย
การถ่ายภาพประเภทนี้ต้องระวังเรื่องฉากหน้าและฉากหลังด้วย เพราะจะทำให้รบกวนภาพทำให้ภาพดูรกตา
ภาพคอยใครเอ่ย ? วัดแสงที่ท้องฟ้า ลด 2 Stop ความเร็วชัตเตอร์ 1/250 วินาที รูรับแสง F 11
· NIGHT PICTURE
หรือการถ่ายภาพไฟกลางคืนที่สวยงาม จะได้ภาพที่แปลกตา
วิธีการถ่ายภาพ
1.ติดตั้งกล้องกับขาตั้งกล้องให้มั่นคง พร้อมติดตั้งสายลั่นชัตเตอร์ให้พร้อม
2.ส่องกล้องหาทิศทางในการถ่ายภาพ ให้ได้มุมที่เหมาะที่สุด
3.คาดคะเนสภาพแสง เพื่อกำหนดเวลาและรูรับแสง (ถ้าเป็นไฟตามถนนปกติ จะใช้ประมาณ 5.6 หรือ 8)
4.ตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ B ลั่นชัตเตอร์ค้างไว้ให้รถวิ่งผ่านจนเป็นที่พอใจ ประมาณ 10-60 วินาที หรือถ้าทิ้งช่วงเวลานาน จะใช้ผ้าดำคลุมหน้าเลนส์ไว้ก่อนก็ได้
การถ่ายภาพไฟกลางคืน ควรถ่ายเผื่อหลายๆ ภาพ ใช้เวลาในการบันทึกภาพและขนาดรูรับแสงต่างๆ กัน และจดบันทึกไว้จะดีที่สุด และควรฝึกหัดเป็นประจำเพราะต้องอาศัยความชำนาญสูงในการถ่ายภาพประเภทนี้
ภาพแสงแห่งความหวัง ความเร็วชัตเตอร์ 15 วินาที รูรับแสง F 8 เลนส์ 35-70 มม.
· LOW KEY
ภาพที่มีโทนสีดำมาก และมีสีตัดกันสูง ภาพจะดูลึกลับ สะดุดตา น่าสนใจ อาจใช้แสงจากธรรมชาติโดยแสงเข้าในทิศทางเดียว หรือกระทบวัตถุที่จะถ่ายเพียงด้านเดียว โดยวัดแสงที่จุดกระทบของแสง คือ วัดแสงใกล้ๆ กับวัตถุ แล้วถอยกล้องออกมาถ่าย โดยไม่ต้องปรับรูรับแสงหรือความเร็วชัตเตอร์อีก
ภาพคนลูกทุ่ง แสงจากหลอดทังสะเตน วัดแสงที่ใบหน้า ผู้เป็นแบบ ความเร็วชัตเตอร์ 1/15 วินาที รูรับแสง F 1.4 เลนส์ 35-70 มม.
· CREATIVE
สุดท้ายอยากให้ผู้สนใจ ลองหามุมมองแปลกๆ สวยงาม น่าสนใจ มีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะจะช่วยทำให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น หลายครั้งที่เห็นนักถ่ายภาพไปถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ แล้วได้ภาพออกมาเหมือนกันหมด หรือเป็นภาพมุมที่ส.ค.ส. หรือปฏิทิน ตีพิมพ์ออกมาให้เห็นจนชินตา
พระอัฉริยะภาพ
การถ่ายภาพ เป็นศิลปะอีกสาขาหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระหฤทัยอย่างจริงจังมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงศึกษาและฝึกฝนการถ่ายภาพด้วยพระองค์เอง จนทรงเป็นนักถ่ายรูปที่มีพระปรีชาสามารถยิ่ง กล้องถ่ายภาพที่ทรงใช้ในระยะเริ่มแรกเป็นกล้องที่ไม่มีเครื่องวัดแสงในตัวจึงต้องใช้พระราชวิจารณญาณอย่างรอบคอบละเอียดถี่ถ้วน พร้อมทั้งพระปรีชาสามารถส่วนพระองค์ จึงทรงถ่ายภาพได้อย่างเชี่ยวชาญ แม้ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพจะมีวิวัฒนาการขึ้นกว่าสมัยก่อน ก็มิทรงใช้ แต่ยังทรงใช้แต่กล้องคู่พระหัตถ์แบบมาตรฐานอย่างที่นักเลงกล้องทั้งหลายใช้กัน พระองค์ทรงเชี่ยวชาญแม้กระทั่งการล้างฟิล์ม การอัดและขยายภาพทั้งภาพขาวดำและภาพสี นอกจากนี้ทรงคิดค้นหาเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ในการถ่ายภาพอยู่เสมอๆ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์จึงเป็นผลงานศิลปะที่ล้ำยุค เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติใหม่ๆ โปรดที่จะถ่ายภาพสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระราชโอรสและพระราชธิดา โดยเฉพาะเมื่อได้ทรงเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์ ซึ่งมีภูมิประเทศที่สวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพ แต่ในปัจจุบันนี้ พระองค์ทรงมีพระราชภารกิจอันมากมายมหาศาล เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ราษฎร ไม่มีเวลาสำหรับการถ่ายภาพมากนัก จะทรงถ่ายภาพก็ได้แต่เฉพาะในคราวที่เสด็จฯ ไปราชการตามสถานที่ต่างๆ เท่านั้น ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เหล่านี้ ทรงใช้เพื่อประกอบการทรงงานของพระองค์ ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร ณ จังหวัดใด ก็จะทรงมีกล้องถ่ายรูปติดพระองค์ไปด้วยเสมอ โปรดถ่ายภาพสถานที่ทุกแห่ง เพื่อทรงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบงานที่ได้ทรงปฏิบัติ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เหล่านี้ จึงมักเป็นภาพถ่ายซึ่งถ่ายได้ครั้งเดียวด้วยไหวพริบ ไม่มีเวลาจ้องหาแง่มุม แต่ด้วยพระปรีชาสามารถ เราจึงได้เห็นภาพฝีพระหัตถ์อันคมชัด และศิลปะในการจัดองค์ประกอบของภาพที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เหล่านี้ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในการวางแผนปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันใจและสามารถแก้ไขเหตุการณ์ของบ้านเมืองได้ทันท่วงที ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ทั้งหลาย ล้วนแสดงให้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงถ่ายภาพเพื่อศิลปะแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแต่ละภาพทรงไว้ซึ่งคุณค่าทางศิลปะและวิชาการ สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง และนำความผาสุกร่มเย็นมาสู่ประชาชนชาวไทยได้อย่างดีอีกด้วย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น